ผอ.สศศ. ร่วมประชุมประสานภารกิจ 39/2567

ผอ.สศศ. ร่วมประชุมประสานภารกิจ 39/2567

เขียนโดย
ประชาสัมพันธ์ สสศ.
เขียนเมื่อ
13 พฤศจิกายน 2567 , 5 เดือนที่แล้ว
จำนวนการเข้าชม
346 ครั้ง

ผอ.สศศ. ร่วมประชุมประสานภารกิจ 39/2567

     วันพุธที่ 13 พฤศจิกายน 2567 พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุมประสานภารกิจกระทรวงศึกษาธิการ ครั้งที่ 39/2567 โดยมี นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ นายธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาธิการ กพฐ. และนางภัทริยาวรรณ พันธุ์น้อย ผอ.สศศ. ในฐานะรองโฆษก ศธ. พร้อมด้วย ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงศึกษาธิการ เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมราชวัลลภ อาคารราชวัลลภ ชั้น 2 กระทรวงศึกษาธิการ

     ซึ่งการประชุมวันนี้ ได้หารือถึงโครงการแก้ปัญหาเด็กที่อยู่นอกระบบการศึกษาและเด็กตกหล่น โดยขณะนี้สำนักงานปลัด ศธ. ได้จัดทำข้อมูลนักเรียน 10 มิถุนายนทุกปี ได้นำข้อมูลดังกล่าวไปประสานกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) แล้ว เพื่อจัดทำข้อมูลเป็นชุดเดียวกัน ในการติดตามและอัปเดตข้อมูลเด็กวัยเรียนที่อยู่นอกระบบการศึกษาเป็นรายบุคคลแบบเรียลไทม์ ซึ่งทุกหน่วยงานสามารถนำเข้าข้อมูลเชื่อมโยงการติดตามเด็กตกหล่นของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กรมส่งเสริมการเรียนรู้ (สกร.) และ กสศ. สำหรับข้อมูลเด็กและเยาวชนอายุระหว่าง 6-18 ปี ที่หลุดออกจากระบบการศึกษาของ กสศ. จำนวน 394,039 คน ให้ได้กลับเข้าสู่ระบบการศึกษา ซึ่งในจำนวนนี้แบ่งเป็น เด็กที่มีสัญชาติไทย จำนวน 190,934 คน และต่างชาติ 203,105 คน

     ทั้งนี้ “สพฐ. ได้ kick-off เริ่มโครงการพาน้องกลับมาเรียนนำการเรียนไปให้น้องแล้ว ซึ่งการดำเนินงานในเรื่องนี้ ผมได้ย้ำว่าต้องนำเด็กไทยที่หลุดออกนอกระบบกลับเข้ามาให้ได้มากที่สุด ส่วนเด็กต่างชาติ ถ้าพบตัวแล้วต้องการเรียน ต้องส่งเสริมให้ได้เข้าเรียน พร้อมขอให้ สพฐ. มีมาตรการ 3 เรื่อง คือ 1. ป้องกันไม่ให้เด็กหลุดจากระบบได้อย่างไร หาสาเหตุเพื่อการป้องกัน 2. เมื่อมีเด็กหลุดจากระบบ อยากให้หาวิธีการพาเด็กกลับมาเรียน และ 3. หากเด็กกลับมาเรียนไม่ได้ ต้องผ่านระบบส่งต่อไปยังหน่วยงานอื่น เช่น สช. สกร. เพื่อให้เด็กได้เรียน อย่างไรก็ตามในการแก้ปัญหาเด็กหลุดระบบการศึกษานั้น ผมไม่ได้ตั้งเป้าหมายว่าจะต้องมีระยะเวลาในการดึงเด็กเข้าระบบได้จำนวนเท่าไหร่ แต่เราจะต้องวางมาตรการที่เข้มข้น เพื่อทำให้ตัวเลขเด็กหลุดระบบการศึกษาเป็นศูนย์ให้ได้”

รูปภาพเพิ่มเติม

Social Media

ติดตามข่าวสารผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่