ผอ.สศศ. ร่วมประชุมประสานภารกิจกระทรวงศึกษาธิการ

ผอ.สศศ. ร่วมประชุมประสานภารกิจกระทรวงศึกษาธิการ

เขียนโดย
ประชาสัมพันธ์ สสศ.
เขียนเมื่อ
30 ตุลาคม 2567 , 6 เดือนที่แล้ว
จำนวนการเข้าชม
195 ครั้ง

ผอ.สศศ. ร่วมประชุมประสานภารกิจกระทรวงศึกษาธิการ

     วันพุธที่ 30 ตุลาคม 2567 พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุมประสานภารกิจกระทรวงศึกษาธิการ ครั้งที่ 37/2567 โดยมี นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการ กพฐ. และนางภัทริยาวรรณ พันธุ์น้อย ผอ.สศศ. ในฐานะรองโฆษก ศธ. พร้อมด้วย ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงศึกษาธิการ เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมราชวัลลภ อาคารราชวัลลภ ชั้น 2 กระทรวงศึกษาธิการ

     ซึ่งการประชุมวันนี้ ได้หารือถึงการขับเคลื่อนเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาตามโครงการประเมินผลนักเรียนระดับนานาชาติ (พิซา) ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ซึ่งได้รายงานผลการอบรมเชิงปฏิบัติการสร้างและพัฒนาข้อสอบวัดความฉลาดรู้ด้านการอ่าน วิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ ระดับม.ต้น กลุ่มเป้าหมายด้านละ 155 คน จาก สพป.เขต 1 และ สพม. 62 เขต ในทุกจังหวัด และ สพม.กทม. รวม 465 คน เพื่อไปจัดทำคลังข้อสอบที่มีคุณภาพในแต่ละระดับ การใช้ออกข้อสอบกลางภาคและปลายภาค และการติดตามการบูรณาการในชั้นเรียน

     รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า โครงการขับเคลื่อนนโยบายการแก้ปัญหาเด็กที่อยู่นอกระบบการศึกษาและเด็กตกหล่น คือ สพฐ. ในปี 2567 มีจำนวนเด็กที่หลุดจากระบบ ใช้รูปแบบหนุนเสริม “การศึกษาที่ยืดหยุ่น” 25 จังหวัด 27 ตำบลต้นแบบ ใน 4 ภูมิภาค ศูนย์การเรียนตามมาตรา 12 โรงเรียน 3 รูปแบบ รองรับเด็กตกหล่น ใน 4 ภูมิภาค โรงเรียนมือถือใช้แอปพลิเคชันการเรียนรู้ เรียนได้ทุกที่ทุกเวลา Anywhere Anytime รวมถึงรูปแบบตาข่ายการศึกษา เพื่อการศึกษาที่ยืดหยุ่น เช่น โรงเรียนปรับการศึกษาโดยเน้นชุมชนเป็นฐาน เรียนรู้ตลอดชีวิต ด้วยวิธีการที่หลากหลาย ประเมินตามความแตกต่างของผู้เรียน ทั้งนี้ได้ปรับปรุงข้อมูลการติดตามเด็กเข้าสู่ระบบการศึกษา ตามโครงการพาน้องกลับมาและพาการศึกษาไปหาน้องเรียนดี มีความสุข ใน 245 เขตพื้นที่การศึกษา ซึ่งในปี 2568 เตรียมขยายผลต่อเนื่องจาก 25 จังหวัด สู่ 77 จังหวัด ได้แก่ โครงการ 1 โรงเรียน 3 รูปแบบ สู่ “1 อำเภอ 1 สถานศึกษา ต้นแบบ” การศึกษาไร้รอยต่อตามมาตรา 12 โรงเรียนมือถือ โดยนำเทคโนโลยี Chat GPT คอร์สเรียนออนไลน์ แอปพลิเคชัน มาใช้อำนวยความสะดวก รวมทั้งออก Portfolio เทียบ Credit Bank ด้วยระบบ AI

     พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าวอีกว่า ในส่วนของกรมส่งเสริมการเรียนรู้ (สกร.) มีจำนวนเด็กที่หลุดจากระบบอายุระหว่าง 6-18 ปี ซึ่งผลสำรวจ 55,491 ราย พบตัว 18,715 ราย โดยส่วนใหญ่ไม่ประสงค์รับความช่วยเหลือ รองลงมาต้องการการสนับสนุนด้านการศึกษา สุขภาพ และทักษะอาชีพ ส่วนสาเหตุที่ไม่เข้ารับการศึกษา 5 อันดับแรก ได้แก่ ความจำเป็นทางครอบครัว การย้ายถิ่นที่อยู่ สภาพของครอบครัว สุขภาพอนามัย และผู้ปกครองมีรายได้น้อยไม่เพียงพอ ซึ่งสกร.ประจำจังหวัด และ สกร.ระดับอำเภอ ได้จัดทำแผนการดำเนินงาน พร้อมลงพื้นที่ติดตามและบันทึกข้อมูลผ่านระบบรายงานให้เป็นปัจจุบันต่อไป

รูปภาพเพิ่มเติม

Social Media

ติดตามข่าวสารผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่