ผอ.สศศ. ร่วมประชุมผู้บริหารระดับสูง สพฐ.

ผอ.สศศ. ร่วมประชุมผู้บริหารระดับสูง สพฐ.

เขียนโดย
ประชาสัมพันธ์ สสศ.
เขียนเมื่อ
19 พฤศจิกายน 2567 , 5 เดือนที่แล้ว
จำนวนการเข้าชม
339 ครั้ง

ผอ.สศศ. ร่วมประชุมผู้บริหารระดับสูง สพฐ.

     วันที่ 19 พฤศจิกายน 2567 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการ กพฐ. เป็นประธานการประชุมผู้บริหารระดับสูงของ สพฐ. ครั้งที่ 46/2567 โดยมี นายพัฒนะ พัฒนทวีดล รองเลขาธิการ กพฐ. นางภัทริยาวรรณ พันธุ์น้อย ผู้อำนวยการสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ พร้อมด้วย ผู้บริหารระดับสูง สพฐ. ผู้อำนวยการสำนัก ผู้เชี่ยวชาญ และบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เข้าร่วม ณ ห้องประชุม สพฐ. 1 อาคาร สพฐ. 4 ชั้น 2 กระทรวงศึกษาธิการ และผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โปรแกรม zoom

     สำหรับการประชุมวันนี้ ได้หารือถึงนโยบายการขับเคลื่อนเด็กหลุดระบบการศึกษา หรือ “Thailand Zero Dropout” ซึ่งตามที่ สพฐ. ได้คิกออฟโครงการพาน้องกลับมาเรียน นำการเรียนไปให้น้อง หรือ “OBEC Zero Dropout” สพฐ. ไม่มีเด็กตกหล่นหรือออกกลางคันนั้น ขณะนี้ สพฐ.ได้ติดตามเด็กที่หลุดระบบการศึกษาออกไปแล้วและตามกลับมาเรียนในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ 4,000 กว่าคน จากยอดเด็กหลุดระบบการศึกษาภาคบังคับในส่วนของ สพฐ. ประมาณกว่า 300,000 คน โดยในจำนวนยอดเด็ก 4,000 คนที่ตามกลับมาได้นั้น จะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มเด็กที่ได้เข้ามาสู่ระบบการศึกษาอีกครั้ง และกลุ่มเด็กที่ต้องนำการศึกษาไปให้ โดยกลุ่มเด็กที่ต้องนำการศึกษาไปให้จะเป็นเด็กที่ป่วยติดเตียง เด็กพิการ และเด็กที่ขาดโอกาสจนไม่สามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้ โดยมอบหมายให้สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ (สศศ) เป็นผู้ดูแล ซึ่งทุกคนจะต้องได้เรียนและไม่ตกหล่นออกนอกระบบอีกต่อไป

     นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้หารือถึงการมอบของขวัญปีใหม่ ของขวัญวันเด็กแห่งชาติ และของขวัญวันครู ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำแผนการดำเนินโครงการ โดยเบื้องต้นของขวัญวันเด็กแห่งนั้นจะอยู่ในรูปแบบการทำให้ผู้เรียนมีได้รายได้ระหว่างเรียน ซึ่งจะเป็นการขับเคลื่อนโครงการโครงการ “Learn to Earn” หรือการเรียนรู้เพื่ออยู่รอด ซึ่งเป็นการมุ่งเน้นการเรียนรู้ที่เป็นแนวทางสร้างโอกาสในการทำงานตลอดชีวิต โดยมีเป้าหมายในการค้นหา พัฒนาศักยภาพของผู้เรียนให้ได้ตามความถนัด ความสนใจ ศักยภาพ รู้จักจุดแข็งและตัวตนของตนเอง โดยได้มอบหมายให้ สศศ.ขับเคลื่อนเรื่องดังกล่าวในกลุ่มโรงเรียนราชประชานุเคราะห์แล้ว จนมีการสร้างงานสร้างรายได้เกิดขึ้นกับผู้เรียน สามารถนำผลิตภัณฑ์ของนักเรียนออกจำหน่ายได้กว่า 1,000 รายการ

     และเลขาธิการ กพฐ. ได้ย้ำถึงมาตรการความปลอดภัยในสถานศึกษา โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยด้านสุขภาพจิตของนักเรียน เนื่องจากพบว่า มีหลายกรณีเลือกจบชีวิตตัวเองด้วยการฆ่าตัวตาย ดังนั้นจึงอยากมอบเป็นนโยบายว่า ขอให้เขตพื้นที่ประสานกับกรมสุขภาพจิตในการนำนักจิตวิทยา เข้าไปในโรงเรียน เพื่อให้ความรู้ด้านทักษะชีวิต พร้อมกับศึกษาพฤติกรรมนักเรียนเป็นรายบุคคล หรือการแสวงหาเครื่องมือที่สามารถใช้วัดได้ว่า ข้อบ่งชี้ใดที่สุ่มเสี่ยงทำให้เด็กมีความเครียด หรือมีแนวโน้มความคิดการฆ่าตัวตายเกิดขึ้น เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำอีก”

รูปภาพเพิ่มเติม

Social Media

ติดตามข่าวสารผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่